ลามิเนตปิดผิวคืออะไร? ชวนรู้จักวัสดุยอดฮิตที่ใช้ในงานตกแต่งภายใน

ถ้าให้จัดอันดับวัสดุสำหรับงานตกแต่งภายในที่น่าจับตาที่สุดในยุคนี้

‘แผ่นลามิเนต’ น่าจะได้ลำดับแรกๆ อย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะนี่คือวัสดุปิดผิวที่ปรับบ้านให้มีสัมผัสธรรมชาติในงบประมาณที่น่าคบหากว่าราคาวัสดุธรรมชาติทั่วไปมาก พูดให้ง่ายขึ้นคือ ลามิเนตปิดผิวเป็นวัสดุยอดนิยมที่อยู่เบื้องหลังความสวยงามของงานตกแต่งภายในของสถาปัตยกรรมทั่วโลกที่มองหาสุนทรียะในงบประมาณที่เหมาะสมนั่นเอง

เมื่อลองถอดรหัสความนิยมของ ‘ลามิเนตปิดผิว’ เราจะเห็นความคิดสร้างสรรค์ในการลดทอนวัสดุตกแต่งอันหนาทึบให้เหลือเพียงแผ่นบาง เลียนสัมผัสธรรมชาติได้ทั้งลายไม้และหิน รวมถึงได้รับการออกแบบวิธีใช้งานให้เป็นการปิดทับวัสดุฐาน เพื่อให้ดีไซเนอร์สามารถนำลามิเนตไปจับคู่ใช้งานกับวัสดุและฟังก์ชันของพื้นที่ได้ตามโจทย์และข้อจำกัดของงานตกแต่งได้หลากหลายยิ่งขึ้น

เมื่อ ‘ไม้แท้’ หรือ ‘หินจริง’ ที่เห็นอาจเป็นเพียงความสามารถอันหาตัวจับยากของ ‘แผ่นลามิเนตปิดผิว’ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ขอชวนคุณทำความรู้จักวัสดุชนิดนี้ให้ดียิ่งขึ้น สามารถตอบคำถามที่ว่าแผ่นลามิเนตปิดผิวคืออะไร ใช้งานอย่างไรดี ชนะวัสดุอื่นตรงไหน และทำไมถึงครองใจนักออกแบบทั่วโลกได้

รู้จักลามิเนต 

ลามิเนต (Laminate) คือวัสดุแผ่นบางที่ผลิตขึ้นจากการอัดชั้นวัสดุให้แน่นด้วยแรงดันและความร้อนสูง จะมี 3 – 5 ชั้นขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีของผู้ผลิต โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น

1. ชั้นป้องกัน (ชั้นผิวหน้าและชั้นรองหลัง)

ชั้นเคลือบผิวเป็นชั้นที่สัมผัสกับการใช้งานโดยตรง ในชั้นนี้จึงเน้นเสริมความแข็งแรงและทนทานของผิวสัมผัส โดยอาจเคลือบผิวด้วยเรซินหรือสารเคลือบผิวอื่นๆ ทับอีกชั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน และป้องกันการสึกหรอของผิวหน้าของแผ่นลามิเนต รวมถึงทำให้พื้นผิวของลามิเนตโดดเด่นยิ่งขึ้น อาทิ ผิวมัน ผิวด้าน ผิวขรุขระ หรือเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น ต่อต้านแบคทีเรียก็ได้เช่นกัน อาจมีได้ทั้งด้านบนและด้านล่างของแผ่นลามิเนต

 2. ชั้นตกแต่ง

ชั้นตกแต่งเป็นชั้นบนสุดที่เผยให้เห็นลวดลาย ในชั้นนี้ผู้ผลิตออกแบบลวดลายให้มีความหลากหลาย เช่น ลายไม้ ลายหิน ลายปูนเปลือย หรือเป็นสีเรียบ

3. ชั้นแกนกลาง (Core)

ชั้นแกนกลางเป็นชั้นที่แข็งแรงที่สุดของแผ่นลามิเนต เรียกได้ว่าเป็นโครงสร้างแกนกลางของแผ่นที่จะให้แผ่นมีทรงที่อยู่ตัว เสถียร และแข็งแรง

โดยแผ่นลามิเนตเป็นวัสดุที่จะนำไป “ปิดผิว” บนวัสดุฐานได้ทั้งงานผนังและงานพื้นเพื่อให้ได้ผิวสัมผัสและลวดลายที่สวยงามในราคาย่อมเยา โดยยังคงคุณสมบัติการใช้งานได้ตามต้องการ

ทำไมลามิเนตถึงเป็นวัสดุยอดนิยมในหมู่นักแต่งบ้านทั่วโลก?

ในฐานะวัสดุอันยอดเยี่ยมที่อยู่เบื้องหลังงานสถาปัตยกรรมทั่วโลก แผ่นลามิเนตปิดผิวมีเหตุผลน่าสนใจ 5 ประการที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงรอบด้าน ไม่แพ้วัสดุธรรมชาติอย่างแผ่นไม้จริงหรือแผ่นหินธรรมชาติเลยทีเดียว

จุดเด่นที่ 1: เลือกลวดลายได้ตามต้องการ

แผ่นลามิเนตผลิตขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ ผู้ผลิตจึงสร้างสรรค์ดีไซน์สีสันและลวดลายขึ้นหลากหลาย มีให้เลือกนับร้อยนับพันลาย อาทิ ลายไม้ธรรมชาติ ลายหิน ลายปูนเปลือย  รวมถึงออกแบบการเคลือบให้มีหลากหลายสัมผัสพื้นผิว เช่น ผิวขรุขระ ผิวด้าน หรือเป็นมันเงา เพื่อให้การนำไปตกแต่งบ้านนั้นตอบโจทย์สไตล์ผู้ใช้งานที่หลากหลาย ตลอดจนทำให้การแต่งบ้านเป็นเรื่องน่าสนุกยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นลายไม้โอ๊คสุดอบอุ่นสไตล์สแกนดิเนเวีย หรือลายเส้นแร่อันเป็นอิสระของหินอ่อนจากอิตาลี แผ่นลามิเนตปิดผิวก็สามารถรังสรรค์ขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องทำลายธรรมชาติจริงแม้แต่น้อย

จุดเด่นที่ 2: ทนรอยขีดข่วนและสารเคมีได้ดี

พื้นผิวของลามิเนตมักเคลือบด้วยเรซิน เรซินนี่เองที่เป็นตัวเสริมความแกร่งให้แผ่นลามิเนตมีผิวสัมผัสที่แข็งแรง สามารถทนต่อรอยขีดข่วนได้ และยังรักษาพื้นผิวได้ดีเมื่อต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยา หรือต้องสัมผัสกับสารเคมีอ่อน ๆ ด้วยเหตุนี้ แผ่นลามิเนตจึงสามารถใช้ได้ในห้องครัว ห้องทำงาน หรือบริเวณ slow bar ในพื้นที่โปรดได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคราบฝังลึก ซึ่งปัญหาคราบฝังลึกมักเป็นข้อกังวลหลักสำหรับการใช้งานวัสดุธรรมชาติทั้งไม้ หิน และปูนเปลือย

จุดเด่นที่ 3: ทำความสะอาดง่าย ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก

แผ่นลามิเนตปิดผิวมีพื้นผิวเรียบ ไม่มีรูพรุน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ฝุ่นไม่เกาะแน่น และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายด้วยผ้าชุบน้ำหรือน้ำยาตามคำแนะนำของผู้ผลิต โดยไม่ต้องขัดหรือเคลือบเงาดังเช่นที่ต้องหมั่นดูแลเมื่อใช้วัสดุไม้ธรรมชาติหรือหินอ่อนแต่อย่างใด

จุดเด่นที่ 4:  ได้ลุควัสดุพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า

แผ่นลามิเนตปิดผิวทำให้ความหรูหรานั้นจับต้องได้ จุดเด่นหลักของลามิเนตคือ ลุคหรือสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ อบอุ่นแกมหรู และสวยงามเกินราคา เพราะแม้จะไม่ใช่วัสดุจากธรรมชาติ แต่กลับสามารถจำลองลวดลายและพื้นผิวได้ใกล้เคียงด้วยความสามารถของนักออกแบบ ผู้ผลิต และเทคโนโลยีของวัสดุตกแต่งที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

จุดเด่นที่ 5: น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

เมื่อเทียบกับแผ่นไม้จริงหรือหินจริง แผ่นลามิเนตปิดผิวมีความบางและเบากว่ามาก ด้วยข้อดีนี้ทำให้แผ่นลามิเนตปิดผิวนั้นสามารถปรับบรรยากาศภายในพื้นที่ได้โดยไม่เป็นภาระต่อโครงสร้างหลัก ง่ายต่อการติดตั้งหรือเคลื่อนย้าย อีกทั้งยังเหมาะกับโครงการที่มีข้อจำกัดด้านโครงสร้าง

การใช้งานแผ่นลามิเนตปิดผิวนั้นสะดวกและสามารถติดตั้งได้รวดเร็วกว่าแผ่นไม้แท้หรือหินจริงมากนัก โดยทั่วไปมีวิธีการติดตั้งอย่างคร่าวดังนี้

1. ตรวจสอบวัสดุฐาน:
   เตรียมวัสดุฐาน เช่น ผนัง ให้พร้อมติดตั้ง ตรวจสอบว่าพื้นผิวสะอาด ปราศจากฝุ่น ไม่มีโพรง รอยร้าว หรือไม่มีน้ำ และมีความแข็งแรงเพียงพอ สำหรับผนังภายนอกอาจทาน้ำยากันซึมก่อนติดตั้ง
   
2. กำหนดตำแหน่งติดตั้ง:
   วัดและกำหนดตำแหน่งติตั้งแผ่นลามิเนตปิดผิว และฉาบกาวหรือปูนรอที่แผ่นลามิเนตปิดผิว
   
   
3. ติดวัสดุปิดผิว:
   นำแผ่นลามิเนตปิดผิวที่ทากาวแล้วติดบนวัสดุฐาน ในกรณีที่เป็นผนังควรติดจากบนลงล่าง และตบเคาะแผ่นให้แนบชิดกับผนัง ตรวจสอบให้ดีว่าไม่มีรอยนูนหรือช่องอากาศ
   
   
4. ทำความสะอาดวัสดุปิดผิว:
   เช็ดแผ่นลามิเนตด้วยฟองน้ำแห้งหรือผ้าชุบน้ำบิดหมาด ทิ้งไว้ราว 4 – 8 ชั่วโมงก่อนลงยาแนว หลังจากลงยาแนวแล้วควรทิ้งไว้ให้กาวหรือปูนเซ็ตตัวอีก 48 ชั่วโมงในสภาพแวดล้อมแห้ง ไม่โดนฝน และทำความสะอาดแผ่นวัสดุอีกครั้งเพื่อจบงาน

แม้แผ่นลามิเนตปิดผิวจะมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ผู้ใช้งานควรเพิ่มความใส่ใจในการใช้งานเพื่อยืดอายุการใช้งานของแผ่นลามิเนตปิดผิวให้ได้ยาวนานที่สุด อาทิ ไม่ควรให้วัสดุร้อนจัดสัมผัสผิวลามิเนตโดยตรงเป็นเวลานาน ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งเพื่อลดปัญหาแผ่นลามิเนตพองหรือขอบลอกได้ อีกทั้งควรเลือกซื้อแผ่นลามิเนตปิดผิวจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้คุณภาพของชั้นเคลือบที่มีผลต่ออายุการใช้งานนั้นได้มาตรฐานตามไปด้วย

นอกจากนี้ หากจะใช้ลามิเนตในพื้นที่เฉพาะ โดยเฉพาะพื้นที่ที่สัมผัสความชื้นสูง ความร้อนสูง หรือมีการใช้งานหนักเป็นพิเศษอย่างห้องครัว ห้องน้ำ หรือสำนักงาน อาจจำเป็นต้องเลือกแผ่นลามิเนตที่รองรับการใช้งานเฉพาะ และติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันปัญหาจากความชื้นและความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่มองหาวัสดุปิดผิวที่มีกลิ่นอายธรรมชาติ สไตล์ Modern Natural & Luxury น้ำหนักเบา ดูแลรักษาง่าย และเป็นหนึ่งเดียวกับความยั่งยืน SHYNE by SHERA (ฌายน์ บาย เฌอร่า) ขอแนะนำนวัตกรรมวัสดุปิดผิว MCM ที่ผสานผงดิน ผงหินบดละเอียด และวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ เข้าด้วยกัน และใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอัดแผ่นให้บางและแกร่ง เป็นธรรมชาติ คงเสน่ห์ของหินไว้ให้สวยงามลงตัวกับทุกพื้นที่โมเดิร์น ใช้ตกแต่งปิดผนังได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร และยังเป็นวัสดุที่คำนึงถึงธรรมชาติด้วยกระบวนการผลิตที่ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนผ่านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยคุณสามารถศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์จาก SHYNE by SHERA เพิ่มเติมได้ทาง https://www.shynebyshera.com