
2025.05.08
หินตกแต่งคืออะไร เลือกแบบไหนให้เหมาะกับสไตล์บ้าน
หินอ่อน หินแกรนิต หินทราย หินปูน
คือวัสดุที่เห็นกันจนชินในโลกของการออกแบบและตกแต่งสถาปัตยกรรม ในอดีตหินเหล่านี้พบเห็นได้ตามสถาปัตยกรรมหินที่อยู่คู่ประวัติศาสตร์มนุษย์มายาวนาน สุนทรียะของเหล่าหินพาให้ผู้คนทั่วไปใฝ่ฝันที่จะแต่งพื้นที่โปรดของตนให้งดงามเหมือนสถาปัตยกรรมที่ได้พบเห็นมา ด้วยเหตุนี้ ‘หินตกแต่ง’ จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์การแต่งบ้านในปัจจุบัน
‘หินตกแต่ง’ คือวัสดุปิดผิวที่ใช้เสริมสุนทรียะให้สถาปัตยกรรมงดงามยิ่งขึ้น เรียกง่ายๆ คือ วัสดุตกแต่งที่ติดตั้งทับโครงสร้างเดิมหรือวัสดุฐานเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูเป็นธรรมชาติ อบอุ่น หรูหรา และมีสัมผัสเฉพาะตัวโดยใช้สุนทรียะจริงของหินธรรมชาติหรือจำลองขึ้นมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ หินตกแต่งจึงเป็นวัสดุได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานด้วยลักษณะให้ความรู้สึกสง่างาม แข็งแรง และเชื่อมโยงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่
ประเภทหินที่หลากหลาย สีสันและลวดลายนับร้อยพัน และคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน ทำให้การเลือกใช้หินตกแต่งให้เหมาะสมกับสไตล์บ้านเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ทนทาน และตอบโจทย์การใช้งานจริง ดังนั้น หากคุณอยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกหินตกแต่งเข้าปรับบรรยากาศบ้าน ก็อาจสงสัยว่าในท้องตลาดมีหินตกแต่งกี่ประเภทกันแน่ ใช้งานอย่างไร และลงตัวกับสไตล์แบบไหน บทความนี้อาจมีคำตอบจากข้อมูลที่รวบรวมมาไว้เป็นไอเดีย ให้คุณได้นำไปประยุกต์ใช้เพื่อเติมสัมผัสธรรมชาติของหินเข้าสู่พื้นที่โปรดได้อย่างลงตัว
ทวนความเข้าใจ หินตกแต่งคืออะไร?
หินตกแต่ง (Decorative Stone / Surface Stone) คือ วัสดุประเภทหินธรรมชาติ หินเทียม หินลามิเนต หรือหินสังเคราะห์ที่นักออกแบบ สถาปนิก และผู้ที่รักการแต่งบ้านเลือกนำมาใช้ในงานสถาปัตยกรรมและการตกแต่งเพื่อเสริมความสวยงามและเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ โดยหินตกแต่งสามารถเป็นแผ่นหิน หินตัด หรือหินโมเสก ซึ่งโดยทั่วไป นักออกแบบและผู้รักการแต่งบ้านมักนำหินตกแต่งมาใช้ทั้งในงานตกแต่งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นผนัง พื้น หรือแม้แต่ของแต่งบ้านอย่างเคาน์เตอร์และเฟอร์นิเจอร์
จุดประสงค์หลักของการใช้หินตกแต่งมีไว้เพื่อเสริมสุนทรียะและตกแต่งพื้นผิว มิได้ใช้เป็นโครงสร้างหรือรับน้ำหนักดังเช่นสถาปัตยกรรมหินชื่อดัง โดยวิธีการใช้งานหินตกแต่งจะใช้ปิดทับโครงสร้างเดิมด้วยกาว ปูนซีเมนต์ หรือการยึดด้วยตะปู หินตกแต่งจึงมีความบางและเบากว่าแผ่นหินธรรมชาติเต็มแผ่น ส่งผลให้ติดตั้งง่ายและมีสนนราคาที่จับต้องได้โดยยังคงความแกร่งและใช้งานได้ยาวนาน
รู้จักประเภทของหินตกแต่ง
เมื่อหินธรรมชาติแต่ละประเภทมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งสี ผิวสัมผัส และลวดลายอิสระที่เป็นร่องรอยของการกำเนิดหินนั้นๆ หินตกแต่งจึงมีประเภท สี ลวดลาย และคุณสมบัติที่แตกต่างกันตามไปด้วย อย่าลืมว่าแม้จุดประสงค์หลักของหินตกแต่งนั้นเน้นความสวยงาม แต่ก็ต้องใช้งานในพื้นที่นั้น ๆ ได้จริงและมีสไตล์ที่ลงตัวกับตัวบ้านหรือสถาปัตยกรรมอีกด้วย
- หินธรรมชาติ
หินธรรมชาติก็เป็นหินตกแต่งได้ โดยหินธรรมชาติเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธีทั้งเกิดจากการเย็นตัวของแมกมา การสะสมของเศษหินและดินเป็นเวลานาน และเกิดจากหินเดิมที่โดนความร้อนและความดันสูงใต้เปลือกโลก ดังนั้น หินธรรมชาติจึงมีความแข็งแรง มีลวดลายเฉพาะตัว นิยมใช้ในงานหรูหรา หรือบ้านที่ต้องการความเป็นธรรมชาติสูง โดยหินธรรมชาติที่ได้รับความนิยมได้แก่
- หินอ่อน (Marble)
หินอ่อนเป็นหินแปรที่มีลายเส้นแร่เป็นธรรมชาติ สวยงาม หรูหรา เกิดขึ้นจากหินเดิมอย่างหินอัคนีหรือหินตะกอนโดนความร้อนและความดันสูงใต้เปลือกโลกจนเปลี่ยนโครงสร้างภายในของหินเดิมให้กลายเป็นหินอ่อน
ข้อดี: หินอ่อนถือเป็นราชาและราชินีแห่งหินตกแต่ง ผิวเนียน ลื่น ลายสวย เมื่อนำไปขัดเงาจะเป็นมันวาวสวย สามารถนำไปตกแต่งพื้นที่ให้หรูหรา อลังการ ตื่นตะลึงได้ดี
ข้อจำกัด: มีรูพรุนสูงทำให้ดูดซึมน้ำและรอยเปื้อนได้ง่ายกว่าหินชนิดอื่น ต้องขัดเงาและเคลือบผิวเป็นประจำ หินอ่อนบางประเภทหายากและมีราคาสูง
การใช้งานยอดนิยม: ปูพื้นและผนังภายใน ผนังหลังทีวี ปิดผิวเคาน์เตอร์ หรือตกแต่งล็อบบี้โรงแรม
สไตล์ที่เหมาะสม: บ้านสไตล์คลาสสิก หรูหรา หรือพื้นที่ที่ต้องการบรรยากาศ Modern Luxury
- หินแกรนิต (Granite)
หินแกรนิตเป็นหินอัคนีที่แข็งแรงที่สุดในบรรดาหินธรรมชาติ ได้ยินเพียงเท่านี้ก็การันตีความแข็งแรง ทนรอยขีดข่วน ความร้อน และสารเคมีกรด-ด่างได้ดี
ข้อดี: นึกถึงความแข็งแรง ให้นึกถึงหินแกรนิต หินประเภทนี้ยังมีลวดลายเม็ดแร่ละเอียด ให้ลุคเข้มแข็ง ดิบ เท่ แต่แกมไว้ด้วยความอบอุ่นเป็นธรรมชาติ
ข้อจำกัด: สีของหินแกรนิตไม่จัดจ้าน มีน้ำหนักมากอาจเป็นภาระต่อโครงสร้าง
การใช้งานยอดนิยม: เหมาะกับพื้นที่ใช้งานหนักและพื้นที่กลางแจ้ง นิยมนำไปปูพื้นภายนอก เคาน์เตอร์ท็อปครัว หรือพื้นโรงแรมสไตล์ที่เหมาะสม: บ้านสไตล์โมเดิร์น ร่วมสมัย เน้นความน้อยแต่มาก
- หินทราย (Sandstone)
หินทรายเป็นหินตะกอนที่เกิดจากการทับถมของเศษตะกอนเป็นชั้นๆ ทำให้มีพื้นผิวหลากหลาย มีชั้นซ้อนสวยงาม หินทรายจึงให้กลิ่นอายธรรมชาติดิบ เนื้อหยาบ และมีสีสันให้เลือกหลากหลาย อาทิ น้ำตาลอ่อน เหลือง แดง หรือแม้กระทั่งสีชมพูเอิร์ธโทน
ข้อดี: หินทรายโดดเด่นเรื่องสีสันที่หลากหลาย มีความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติสูง ลงตัวกับภูมิทัศน์กลางแจ้ง เน้นกลิ่นอายอบอุ่นแกมดิบของธรรมชาติ
ข้อจำกัด: หินทรายเกิดจากการทับถมของเศษตะกอนทำให้มีรูระหว่างชิ้นตะกอน ซึ่งเกิดเป็นรูพรุนของหินในภายหลัง หินประเภทนี้จึงซึมน้ำได้พอควร เมื่อนำไปใช้งานจำเป็นต้องเคลือบกันซึม
การใช้งานยอดนิยม: ผนังตกแต่งภายนอก ตกแต่งแนวทางเดิน และงานภูมิทัศน์ทั่วไป
สไตล์ที่เหมาะสม: พื้นที่สไตล์รีสอร์ต กลิ่นอายทรอปิคัล เปี่ยมไปด้วยความเบาสบายของธรรมชาติ
- หินชนวน (Slate)
หินชนวนเป็นหินแปรที่เกิดจากการแปรสภาพของหินดินดานหรือหินตะกอนอื่นๆ ด้วยความร้อนและแรงดันสูง ทำให้ผิวหน้ามีชั้นบาง ไม่มันเงา และมีสีเฉดเข้มให้ลุคดิบ เท่ เป็นธรรมชาติ โดยทั่วไปหินชนวนมีผิวไม่เรียบ ขรุขระจากร่องรอยของธรรมชาติทำให้เสริมความเท่ดิบของหินให้ยิ่งเด่นชัด
ข้อดี: สีสันที่ลงตัวกับบ้านที่ต้องการบรรยากาศสงบ เรียบ เท่ เช่น เทา ดำ เขียว และน้ำตาล ดูเรียบหรูและกลมกลืนกับธรรมชาติ โดยผิวขรุขระของหินทรายยังกันลื่นได้ดี สามารถใช้งานได้ทั้งงานตกแต่งภายนอกและภายใน
ข้อจำกัด: มีผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ อาจไม่สามารถนำไปตกแต่งพื้นที่ที่ต้องวางของได้ และควรเคลือบสารกันน้ำหรือเคลือบเงาเพื่อป้องกันคราบฝัง
การใช้งานยอดนิยม: ผนังตกแต่งทั้งภายในและภายนอก พื้นทางเดิน และสวน
สไตล์ที่เหมาะสม: บ้านสไตล์ลอฟต์ เซ็น และอินดัสเทรียลที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอายดิบ เท่ เป็นธรรมชาติ
- หินสังเคราะห์ (Engineered Stone / Artificial Stone)
หินสังเคราะห์ คือวัสดุที่ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการผสมแร่หิน สารยึดเกาะ (เช่น เรซิน) และสีแล้วขึ้นรูปเป็นแผ่นหรือลวดลายต่าง ๆ เพื่อจำลองสุนทรียะของหินธรรมชาติในแบบที่รบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด หินสังเคราะห์จึงปิดจุดอ่อนของหินธรรมชาติได้ มีความแข็งแรง และใช้งานได้ยาวนาน
ข้อดี: ผิวเนียน แข็งแรง ไร้รูพรุนทำให้ไม่ดูดซึมน้ำ ไม่ฝังคราบ ทำความสะอาดง่าย ทนต่การใช้งานและสารเคมี นอกจากนี้ หินสังเคราะห์ยังมีลวดลายเป็นอิสระแต่สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับนำไปใช้ในโครงการที่ต้องการความต่อเนื่องของสีสันและลวดลาย
ข้อจำกัด: ควรติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ
การใช้งานยอดนิยม: ท็อปครัว ท็อปซิงค์ห้องน้ำ เคาน์เตอร์บาร์ และตกแต่งผนังได้ทั้งภายในและภายนอก
สไตล์ที่เหมาะสม: บ้านสไตล์ Modern Luxury หรือใช้งานเฉพาะพื้นที่ที่ต้องการหินที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ทนความร้อน ความชื้น และไม่สะสมแบคทีเรีย
- หินตกแต่งเบา (Lightweight Stone Veneer)
หินตกแต่งเบาเป็นหินประเภทหินเทียม (Artificial Stone) ซึ่งให้แบ่งประเภทหินที่มนุษย์ผลิตขึ้นโดยยังคงใช้ส่วนประกอบของหินธรรมชาติ เช่น เศษหินเหลือใช้ ผงหิน หรือปูนซีเมนต์ โดยหินตกแต่งเบาผลิตจากปูนซีเมนต์หรือวัสดุผสมอื่นๆ ผสมสีและพิมพ์ลายให้มีลักษณะคล้ายหินธรรมชาติ จากนั้นจะขึ้นรูปสำเร็จเป็นแผ่นบาง
ข้อดี: มีลวดลาย สี และพื้นผิวให้เลือกหลากหลาย (อาทิ หินชนวน หินอ่อน และหินทราย) บางรุ่นสามารถจำลองรายละเอียดพื้นผิวได้สมจริง ออกแบบให้ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา ใช้งานได้กับผนังเบาโดยที่ไม่จำเป็นต้องเสริมโครงสร้างผนัง และสามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกโดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้หินจริงได้ เช่น ผนังบนชั้นสูง ผนังโครงสร้างไม้ หรือพื้นที่ที่รับน้ำหนักได้จำกัด
ข้อจำกัด: ไม่สามารถใช้งานเป็นโครงสร้างรับแรงได้ ควรเลือกแผ่นหินจากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองมาตรฐาน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง
การใช้งานยอดนิยม: เหมาะกับงานรีโนเวตหรือผนังภายใน
สไตล์ที่เหมาะสม: บ้านสไตล์ลอฟต์ โมเดิร์น หรือบ้านที่ต้องการบรรยากาศ Modern Natural แกมหรู และรีสอร์ต

เลือกหินตกแต่งให้เหมาะกับสไตล์บ้าน
มากกว่าความสวยงาม การเลือกหินให้เข้ากับสไตล์ของบ้านเป็นการสร้างอัตลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่บ่งบอกตัวตนและความชอบส่วนบุคคล หากคุณมีแบบบ้านในใจ อาจลองเก็บเทคนิคเลือกหินให้เข้ากับบ้านเป็นไอเดียไว้ประยุกต์ใช้
- บ้านสไตล์โมเดิร์น: บ้านโมเดิร์นเน้นความเรียบง่าย เส้นสายชัด เฉียบคม และเลือกใช้วัสดุทันสมัย ลดทอนงานตกแต่งที่ไม่จำเป็นลง แต่ยังคงสไตล์เท่และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เพื่อลดทอนความแข็งของเส้นคมที่เป็นหัวใจของบ้านยุคใหม่
หินตกแต่งแนะนำ: หินชนวนสีเทาเข้ม หินแกรนิตลายเรียบ และหินสังเคราะห์ลายคอนกรีตหรือหินอ่อนสีดำ
- บ้านสไตล์มินิมอล: น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ คือหัวใจของบ้านมินิมอล ปัจจุบันสไตล์มินิมอลมักจะเจือความโมเดิร์นเข้าไปให้บ้านมีลูกเล่น รวมถึงเริ่มแตกสไตล์ย่อยออกไป เช่น สไตล์เจแปนดิที่ผสมสไตล์ญี่ปุ่นเข้ากับสแกนดิเนเวีย บ้านสไตล์นี้จะเน้นโทนสีอ่อน สะอาดตา ดูโปร่งโล่ง แต่ยังคงเจือไว้ด้วยความอบอุ่นของแสงและธรรมชาติ
หินแนะนำ: หินอ่อนหรือหินสังเคราะห์ลายหินอ่อนสีขาว/ครีม และหินทรายสีอ่อนผิวด้าน
- บ้านสไตล์คลาสสิกหรูหรา: รายละเอียดแน่น เน้นเส้นโค้ง แต่ยังคุมโทนสีให้เป็นหนึ่งเดียวคือเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์คลาสสิกหรูหรา เน้นความโอ่อ่าในรายละเอียดสุดประณีต
หินแนะนำ: หินอ่อนหรือหินสังเคราะห์ขัดมันลายเข้ม และหินแกรนิตสีทองหรือหินแกรนิตสีดำ
- บ้านสไตล์ลอฟท์ หรืออินดัสเทรียล (Loft/Industrial): ดิบ เท่ แสดงโครงสร้างจริงอย่างไม่ปิดบัง หลงใหลในสัจจะวัสดุและร่องรอยของธรรมชาติ แต่ยังคงเต็มไปด้วยความเรียบง่ายคือ หัวใจของสไตล์ลอฟท์หรืออินดัสเทรียล
หินแนะนำ: หินกาบ หินชนวน หินเทียมลายปูนเปลือย หินก้อนธรรมชาติที่มีพื้นผิวขรุขระ

ติดตั้งหินตกแต่งอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน?
อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ก่อนอื่นควรเลือกวัสดุฐานให้เหมาะสม และตรวจสอบว่าวัสดุฐานพร้อมติดตั้ง เช่น ผนังปูนไม่มีรอยแตกร้าว เมื่อต้องติดตั้งควรพิจารณาใช้กาวหรือซีเมนต์ที่เหมาะกับประเภทหิน นอกจากนี้ สำหรับพื้นที่เปียก ควรเลือกหินตกแต่งที่ไม่ซึมน้ำ จึงควรยาแนวอย่างถูกวิธี หากจำเป็นต้องใช้หินธรรมชาติก็ควรเคลือบสารกันซึมทุก 1-2 ปี
หากหินตกแต่งเป็นวัสดุที่คุณกำลังมองหา SHYNE by SHERA ขอแนะนำนวัตกรรมวัสดุ MCM (Modified Clay Material) ที่ผสานผงดิน ผงหินบดละเอียด และวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ เข้าด้วยกัน และใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอัดแผ่นให้บางและแกร่ง พร้อมออกแบบให้เป็นลวดลายหินลุค Modern Luxury & Natural ที่บางและเบาเพียง 2 – 7 มิลลิเมตร สามารถให้สัมผัสหินที่ลดภาระของโครงสร้าง ประหยัดค่าขนส่ง และเมื่อติดตั้งแล้วสามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้แผ่น MCM ยังปลอดสารระเหยง่าย ผิววัสดุเรียบลื่นไม่มีรูพรุนทำให้ฝุ่นไม่เกาะและสามารถทำความสะอาดได้เอง รวมถึงมีข้อดีของคุณสมบัติดินที่ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่และประหยัดพลังงาน สวยงามลงตัวกับทุกพื้นที่โมเดิร์น โดยคุณสามารถศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์จาก SHYNE by SHERA เพิ่มเติมได้ทาง https://www.shynebyshera.com