2025.05.08

แผ่นลามิเนตกับพื้นกระเบื้อง แบบไหนดีกว่ากัน

‘พื้น’ เป็นงานดีไซน์ที่สำคัญที่สุดของบ้านหรืออาคารแห่งใดแห่งหนึ่ง เพราะพื้นมีอาณาเขตครอบคลุมทุกพื้นที่หลัก พื้นจึงสัมพันธ์กับทั้งกายและใจของผู้อยู่อาศัย ทุกก้าวเดินต้องสัมผัสสบาย ปลอดภัย และเหมาะกับการใช้งานของพื้นที่นั้นๆ ส่วนทางใจนั้นพื้นที่ดีต้องช่วยส่งให้บรรยากาศของพื้นที่อยู่สบาย สวยงาม และลงตัวกับสไตล์ของบ้าน

 

เมื่อต้องตัดสินใจเลือกวัสดุ ผู้คนมักตีวงให้เหลือสองวัสดุยอดนิยม ได้แก่ แผ่นพื้นลามิเนตและแผ่นพื้นกระเบื้อง ที่มาพร้อมความทนทาน ดีไซน์สวย และมีลวดลายที่มีกลิ่นอายธรรมชาติอย่างลายไม้หรือลายหินอยู่เต็มเปี่ยม แม้ทั้งสองวัสดุเหมาะสมสำหรับนำมาปูพื้นทั้งคู่ พื้นลามิเนตและพื้นกระเบื้องต่างมีจุดเด่นและสัมผัสที่แตกต่างกัน หากคุณอยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกระหว่างวัสดุสองประเภทนี้ SHYNE ขอชวนคุณลิสต์คำถาม หาคำตอบไปกับ 5 ข้อที่จะตอบได้ว่าพื้นสำหรับบ้านในฝัน จะเลือกแผ่นลามิเนตหรือแผ่นกระเบื้องดีกว่ากัน?


คำถามที่ 1: พื้นแบบไหนตั้งงบแล้วสบายใจกว่า?

เมื่อต้องเลือกวัสดุปูพื้นที่ปูแล้วสบายกระเป๋า แผ่นพื้นลามิเนตและแผ่นกระเบื้องถือเป็นคู่แข่งที่สูสี ตัดกันตรงที่ว่าเป็นงบในระยะใด 

 

แผ่นพื้นลามิเนต: แผ่นพื้นลามิเนตประกอบขึ้นจากวัสดุที่มีส่วนผสมของไม้ มีน้ำหนักเบา และให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริง แผ่นพื้นลามิเนตจึงจุดเด่นเรื่องราคาที่จับต้องได้ และมีราคาต่ำกว่าแผ่นพื้นกระเบื้องโดยเปรียบเทียบ (ทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 300 – 1,000 บาทต่อตารางเมตร) แผ่นพื้นลามิเนตยังติดตั้งง่ายทำให้ค่าธรรมเนียมการติดตั้งไม่สูงมากนัก

 

แผ่นพื้นกระเบื้อง: แผ่นกระเบื้องจะใช้วัสดุอื่นๆ ที่มิใช่ไม้และใช้เทคโนโลยีใส่ลวดลายไม้หรือลวดลายธรรมชาติลงไป แผ่นกระเบื้องจึงแข็งแรงและทนทานกว่าแผ่นลามิเนต ตามมาด้วยที่ราคาสูงกว่าโดยช่วงราคาของแผ่นพื้นกระเบื้องค่อนข้างกว้าง เริ่มต้นที่500 – 600 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งราคาจะสูงขึ้นตามลักษณะพิเศษของแผ่นกระเบื้อง นอกจากนี้ แผ่นกระเบื้องยังจำเป็นต้องปูโดยช่างปูกระเบื้องโดยเฉพาะ ทำให้มีค่าติดตั้งที่สูงกว่าโดยเปรียบเทียบ

 

แนะแนวคำตอบ: หากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แผ่นพื้นลามิเนตจะตอบโจทย์ด้วยราคาวัสดุและการติดตั้งที่ประหยัดได้มากกว่า โดยควรเลือกใช้พื้นลามิเนตให้เหมาะกับการใช้งานของพื้นที่ และดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากหากมองระยะยาว ความทนทานของพื้นกระเบื้องอาจช่วยประหยัดงบประมาณการซ่อมแซมได้เช่นกัน


 SHYNE #3 Content_5.jpg


คำถามที่ 2: พื้นแบบไหน ดูแลและซ่อมแซมง่ายกว่า?

ความสะดวกในการบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่ออายุการใช้งานและรูปลักษณ์ของพื้นในระยะยาวอีกด้วย 

 

แผ่นพื้นลามิเนต: แผ่นพื้นลามิเนตเป็นตัวเลือกที่ลงตัวกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ส่วนใหญ่มักมาพร้อมสุนทรียะไม้เนื้อแข็งอันงดงามโดยไม่ต้องดูแลรักษาอย่างเข้มงวด แต่ยังคงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจคุณสมบัติของวัสดุที่ไวต่อความชื้น ควรเลี่ยงการถูพื้นแบบเปียกและใช้น้ำยาทำความสะอาดตามที่ผู้ผลิตแนะนำ เพื่อลดความเสียหายหรือโก่งงอ หากพื้นเกิดความเสียหาย อาจจำเป็นต้องรื้อพื้นโดยรอบเพื่อเปลี่ยนแผ่นพื้นใหม่ 

 

แผ่นพื้นกระเบื้อง: พื้นกระเบื้องมีจุดเด่นเรื่องการบำรุงรักษาง่าย เพียงทำความสะอาดเป็นประจำและดูแลยาแนวอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว แต่พื้นกระเบื้องบางประเภทอย่างกระเบื้องซีเมนต์อาจต้องเคลือบผิวใหม่เป็นระยะ นอกจากนี้ ในกรณีที่พื้นเกิดความเสียหายก็สามารถเปลี่ยนกระเบื้องทีละแผ่นโดยไม่ต้องรื้อพื้นทั้งหมด

 

แนะแนวคำตอบ: แผ่นพื้นลามิเนตได้เปรียบเรื่องการดูแลรักษาง่ายในชีวิตประจำวัน เพียงทำความสะอาดเป็นประจำและไม่ต้องเคลือบเพื่อรักษาพื้นผิวแต่อย่างใด แผ่นกระเบื้องลามิเนตจึงเหมาะกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ในขณะที่แผ่นพื้นกระเบื้องได้เปรียบเรื่องการซ่อมแซม สามารถซ่อมแซมได้เฉพาะจุดที่เกิดความเสียหายโดยไม่จำเป็นต้องรื้อพื้นโดยรอบ

 

คำถามที่ 3: พื้นแบบไหน มีอายุการใช้งานนานกว่า?

อายุการใช้งานเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแรงของวัสดุและความสามารถในการทนต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

 

แผ่นพื้นลามิเนต: แผ่นพื้นลามิเนตมักมีชั้นป้องกันรอยขีดข่วนและสึกหรอ แผ่นพื้นประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงที่เดินย่ำไปมาตลอดเวลา โดยเฉลี่ย แผ่นพื้นลามิเนตสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 – 25 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การดูแลรักษา และน้ำหนักและความถี่ของการใช้งาน สำหรับในเมืองร้อนอย่างไทย แผ่นพื้นลามิเนตอาจมีอายุการใช้งานสั้นลงเนื่องจากเป็นวัสดุที่ไวต่อความชื้น

 

แผ่นพื้นกระเบื้อง: แผ่นพื้นกระเบื้องโดดเด่นเรื่องความทนทาน บางครั้งมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปีหรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ดี แผ่นพื้นกระเบื้องมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าแผ่นลามิเนต ทำให้อาจเกิดรอยแตกหรือรอยร้าวเมื่อสิ่งของหนักตกกระทบ

 

แนะแนวคำตอบ: เมื่อพูดถึงอายุการใช้งาน แผ่นพื้นกระเบื้องจึงยืนหนึ่งเรื่องความแข็งแรง ทนชื้น และสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าแผ่นพื้นลามิเนต อย่างไรก็ดี แผ่นพื้นลามิเนตสามารถตีตื้นเรื่องการรับน้ำหนักมากได้โดยไม่แตกร้าว


SHYNE #3 Content_3.jpg 

คำถามที่ 4: พื้นแบบไหน เดินแล้วสัมผัสสบายกว่า?

การกำหนดนิยามของพื้นที่มีสัมผัสสบายเป็นเรื่องท้าทาย เพราะความรู้สึกสบายขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและจุดประสงค์เฉพาะของการใช้งานในพื้นที่นั้นๆ

 

แผ่นพื้นลามิเนต: พื้นไม้ลามิเนตจะให้สัมผัสสบายเท้าเมื่อใช้เป็นวัสดุปิดผิวของพื้นเดิม เพราะวัสดุลามิเนตมีความยืดหยุ่น ทำให้รู้สึกนุ่มนวลกว่าเมื่อเทียบกับความแข็งของพื้นกระเบื้อง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ใช้งานด้วยการยืนหรือเดินเป็นเวลานานอย่างห้องนั่งเล่นและห้องครัว

 

แผ่นพื้นกระเบื้อง: ในเมืองร้อน แผ่นกระเบื้องมอบสัมผัสเย็นได้อย่างโดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่ดูดความร้อนและคายความเย็นได้ดี ทำให้เท้าเย็นสบายตามธรรมชาติเมื่อสัมผัส แต่ไม่ดูดซับแรงกระแทกเท่าใดนักทำให้เมื่อเดินหรือยืนนานๆ จะรู้สึกว่าพื้นแข็ง

 

แนะแนวคำตอบ: เมื่อความสบายในการปูพื้นนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและบริบทภายในบ้านเป็นหลัก หากคุณต้องการพื้นเย็นสบาย พื้นกระเบื้องอาจเป็นทางเลือกที่ดี ในทางกลับกัน หากคุณกำลังมองหาพื้นที่มีความยืดหยุ่นสำหรับยืนหรือเดินนานๆ แผ่นพื้นลามิเนตอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า ซึ่งจะเลือกวัสดุใดก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ บริบทการใช้งาน และความชอบส่วนตัว

 

คำถามที่ 5: พื้นแบบไหนเป็นมิตรต่อการใช้งานมากกว่ากัน?

เมื่อต้องพิจารณาถึงวัสดุและสุขภาพของคนในบ้าน สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงผลกระทบของวัสดุต่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร อาทิ การสะสมของสารก่อภูมิแพ้และการสะสมของแร่ที่เป็นอันตราย

 

แผ่นพื้นลามิเนต: แผ่นพื้นลามิเนตมีโครงสร้างเป็นชั้น มีความเสี่ยงต่อการสะสมของสารก่อภูมิแพ้ค่อนข้างต่ำเมื่อได้รับการดูแลและทำความสะอาดเป็นประจำ อย่างไรก็ดี ควรเลือกแผ่นพื้นที่มีการรับรองว่าไม่ปล่อยหรือมีการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) ต่ำ ก็จะทำให้วัสดุปูพื้นเป็นมิตรต่อทุกคนในบ้าน

 

แผ่นพื้นกระเบื้อง: แผ่นพื้นกระเบื้องมีคุณสมบัติไม่มีรูพรุน ทำให้มีโอกาสที่ไรฝุ่น เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ซ่อนตัวได้ต่ำ วัสดุพื้นประเภทนี้จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากสามารถทำความสะอาดสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย

 

แนะแนวคำตอบ: ทั้งแผ่นพื้นลามิเนตและพื้นกระเบื้องต่างเป็นมิตรในการใช้งาน แผ่นพื้นกระเบื้องอาจเหนือกว่าเล็กน้อยด้วยคุณสมบัติรูพรุนต่ำหรือไร้รูพรุน สำหรับบ้านที่ใส่ใจสุขภาพ สามารถเลือกได้ตามสไตล์ที่ชื่นชอบและดูแลการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ


SHYNE #3 Content_2.jpg 

ไม่ว่าจะพื้นลามิเนตหรือกระเบื้อง สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือการนำไปใช้งานให้ตรงตามจุดประสงค์และคุณสมบัติ อาทิ พื้นลามิเนตอาจเหมาะสำหรับห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่มีโอกาสสัมผัสความชื้นต่ำ ส่วนพื้นกระเบื้องอาจเหมาะสำหรับห้องครัวและห้องน้ำที่สัมผัสความชื้นตลอดเวลา หรือหากจำเป็นต้องใช้พื้นลามิเนตก็เลือกประเภทที่เคลือบสารกันชื้น สำคัญเพียงต้องดูแลอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นให้ยาวนานที่สุด